1. ขอบ้านเลขที่
การขอไฟฟ้ามาลงที่บ้านที่อยู่ในไร่นั้น จำเป็นต้องมีบ้านเลขที่ในการติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า การขอบ้านเลขที่ ถ้าเป็นพื้นที่ห่างไกลหมู่บ้าน จำเป็นที่จะต้องสร้างเพิงพักหรือทำเป็นบ้านถาวรเลยก็ได้
สิ่งที่จะต้องสร้างควบคู่กับบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้คือ ห้องน้ำ เพราะการมีห้องน้ำจะเปรียบเสมือนจะมาอยู่ถาวร (ถึงแม้ว่ายังไม่ได้อยู่ถาวรตอนนี้เลยก็ตาม) ฉะนั้นห้องน้ำจึงมีความจำเป็นสำหรับใช้ประกอบหลักฐานในการขอบ้านเลขที่
จากนั้นจะต้องถ่ายรูปที่พักและห้องน้ำ เพื่อให้อนามัยในพื้นที่มาตรวจพร้อมกับเซ็นเอกสารรับรองการเป็นอยู่ที่ถูกสุขลักษณะ จากนั้นนำหนังสือไปยื่นกับผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้รับผิดชอบในการขอบ้านเลขที่ต่อไป
หลังจากนั้น ให้นำหนังสือรับรองจากผู้ใหญ่บ้านไปยื่นต่อที่อำเภอ เพื่อลงทะเบียนขอสำเนาทะเบียนบ้าน ตอนนี้ก็จะมีสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมบ้านเลขที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อควรรู้
ในการขอไฟเกษตรต้องดูแนวโน้มในพื้นที่ด้วยว่าจะมีไฟฟ้าเข้ามาด้วยหรือไม่ และต้องมีบ้านอยู่ในโซนเดียวกันตั้งแต่ 3 หลังขึ้นไป เพื่อขอไฟฟ้าถึงจะมีน้ำหนักในการขอไฟฟ้าเข้าในพื้นที่ห่างไกลชุมชน แต่ถ้าในพื้นที่มีบ้านหลังเดียวก็สามารถขอไฟฟ้าพิเศษได้ แต่ค่าไฟจะสูงกว่าปกติ
2. ยื่นเรื่องกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
นำเรื่องไปยื่นกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ของตนเอง อาจเป็น อบต. หรือเทศบาลแล้วแต่ว่าพื้นที่ของตนนั้นอยู่ในเขตไหน เจ้าหน้าที่ก็จะให้กรอกเอกสารเพื่อรับรองโดยแนบสำเนาทะเบียนบ้านของเราและเพื่อนบ้านไปพร้อมกัน
3. ยื่นเรื่องที่การไฟฟ้าในอำเภอของตนเอง
หลังจากยื่นเรื่องที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเรียบร้อยแล้วก็นำเอกสารไปยื่นไว้ที่การไฟฟ้าในอำเภอ กรอกเอกสารให้เรียบร้อย ซึ่งเป็นการยื่นเรื่องไว้รอความคืบหน้าต่อไป
Comments
Post a Comment